ทุกวันนี้หันไปทางไหนก็เจอแต่ข่าวของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลกระทบทางจิตใจทำให้เราหดหู่ได้ วิธีที่จะป้องกันไม่ให้เรานั้นเกิดการกังวลมากเกินไปก็อาจจะเป็นการหลีกหนีดูเรื่องร้าย ๆ ในตอนนี้ เพราะมันจะยิ่งส่งผลทำให้จิตใจของคุณนั้นยิ่งหมองเศร้าไปใหญ่
บทความนี้วันนี้เราจึงขอนำเสนอสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องกังวล ในขณะที่ที่การระบาดของโคโรนาไวรัสนั้นมีในทุกพื้นที่ หากคุณทราบเรื่องราวที่เป็นความจริงเหล่านี้แล้วก็อาจจะลดความกลัวของโควิด-19 นี้ไปได้
เมื่อจำนวนผู้ป่วยที่ยืนยันความเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนโดยรวมของประเทศก็เช่นกัน นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวว่าความวิตกกังวลของสาธารณชนอยู่ในระดับสูงและส่วนใหญ่เกิดจากความรู้สึกไร้ความหวัง
เมื่อเรารู้สึกกลัวหรือกังวลมากเกินไป เหล่านี้มันมักจะมาพร้อมกับความกลัวเป็นพิเศษ David Ropeik ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารความเสี่ยงกล่าวเอาไว้ว่า “เมื่อเราไม่เข้าใจบางสิ่งและสิ่งนั้นอาจจะทำให้เรารู้สึกได้ว่า เรานี่โง่เหง่าเหลือเกิน ฉันจะหาสิ่งใดที่ทำให้ฉันรู้ทันได้บ้างละนี่ ซึ่งเหล่านี้เท่ากับความไร้พลังในความอ่อนแอ”
เรามาดูคำอธิบายทุกสิ่งที่ควรรู้ตั้งแต่อาการจนถึงวิธีเตรียมตัวของโคโรนา
คุณอาจจะเห็นการแพร่กระจายของโควิด-19 นี้ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาด้านสาธารณสุข มันเป็นกิจกรรมระดับโลกที่แพร่กระจายไปเกือบทุกด้านของชีวิตทำให้พวกเขาต้องกังวล ไม่เพียงแต่จะทำให้ตัวเองป่วย แต่ยังคงเกี่ยวกับสุขภาพของคนแก่ในบ้านอีก ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับธรรมชาติและวิถีของภัยคุกคามทำให้เรามีความรู้สึกว่าเราควบคุมสิ่งนี้ไม่ได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่าสื่อมีบทบาทสำคัญในการช่วยสังคม พวกเขาจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องโดยต้องไม่มีการใช้หรือใส่ความรู้สึกว่าเข้าไป จะต้องหลีกเลี่ยงการใช้ประโยชน์จากความกลัวของผู้คน บล็อกโพสต์จาก Poynter Institute ซึ่งฝึกอบรมนักข่าวตั้งข้อสังเกตว่าการพูดว่า “ไวรัสร้ายแรง” อาจทำให้เข้าใจผิดเพราะไวรัสไม่เป็นอันตรายต่อคนส่วนใหญ่
ผู้คนควรจำกัดการเปิดรับสื่อด้วยตนเอง ผู้เชี่ยวชาญกล่าว พวกเขาระมัดระวังไม่ให้อ่านเกี่ยวกับการระบาดอย่างระมัดระวัง และแนะนำให้รับข้อมูลที่จำเป็นและดำเนินชีวิตอย่างเช่นเคย
สิ่งที่ดีที่สุดคือการหาแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ข่าวที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและระมัดระวังเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณไม่จำเป็นต้องค้นหาข้อมูลอยู่ตลอดเวลา เพราะมันจะเข้าไปอยู่ในสมองของคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว
แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าไวรัสโคโรนานี่จะดำเนินไปนานแค่ไหน มันไม่มีความแน่นอนว่าจะกำจัดมันออกไปได้หมดเมื่อไหร่ โดยความเป็นจริงแล้วทุกคนควรมุ่งมั่นเพื่อความสมดุลทางอารมณ์ รักษากิจวัตรประจำวัน หาคนที่สามารถช่วยให้คุณได้ระบายความรู้สึกกลัวและความกังวลได้ อย่าลืมว่าการคุยกับเพื่อนเรื่องการระบาดของโคโรนาไวรัสเป็นโรคติดต่อที่เลวร้ายเช่นเดียวกัน
