ความคืบหน้าคดีสะเทือนโซเซียล “ น็อตกราบรถ”

0
334002
views

ความคืบหน้าของคดีดังในโลกออนไลน์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา คดีดังกล่าวทำให้มีวลี “กราบรถกู” หรือ “น็อตกราบรถ” เป็นที่ติดหูของคนทั่วไปในชั่วข้ามคืน การเปิดเผยความคืบหน้าคดีที่นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือ น็อต ดารา พิธีกร ถูกรถจักรยานยนต์ซึ่งผู้ขับขี่คือนายกิตติศักดิ์ สิงโต เฉี่ยวชนรถมินิคูเปอร์ของนายอัครณัฐ ทำให้นายอัครณัฐได้ลงจากรถตรงไปทำร้ายร่างกาย และบังคับในนายกิตติศักดิ์ สิงโต ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ให้กราบรถของตน ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ทางโซเซียลมีเดียอย่างหนัก ทางครอบครัวของนายกิตติศักดิ์ สิงโต ได้เห็นคลิปที่นายกิตติศักดิ์ได้ถูกทำร้ายร่างกายมีบาดแผลที่ถูกต่อยแผลเขียวฟกช้ำบริเวณตาขวา กรามซ้ายบวม และจมูกเบี้ยว ทำให้รู้สึกรับไม่ได้กับการกระทำดังกล่าว จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น็อต อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล โดยได้ส่งสำนวนยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ไปแล้ว

ทางอัยการฯได้ยื่นฟ้องน็อต อัครณัฐ ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 297 โดยจะมีการนัดหมายวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 นี้ และนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 29 พฤษภาคมตามลำดับ

นายกิตติศักดิ์และคุณแม่ ได้ออกมาเปิดใจให้สังคมได้รับรู้ ล่าสุดเกี่ยวกับความคืบหน้าหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวว่าตนและคุณแม่จะไม่มีการเจรจาใดๆอีก คงให้เป็นดุลยพินิจของศาล เพราะที่ผ่านมานั้นไม่เคยได้รับการติดต่อหรือการเยียวยาช่วยเหลือจากนายอัครณัฐเลย ทั้งที่นายอัครณัฐเคยบอกกับสื่อว่าพร้อมที่จะช่วยเหลือในทุกๆอย่าง

ที่ผ่านมาแม่ของนายกิตติศักดิ์ยอมรับว่าตนได้ปิดมือถือตลอดทำให้ติดต่อไม่ได้ แต่ถ้านายอัครณัฐมีความตั้งใจจะช่วยเหลือจริงๆ คิดว่าน่าจะมีอีกหลายทางในการติดต่อตนและลูก แต่ก็ไม่เคยมีการติดต่อใดๆมาเลย

ทนายสงกรานต์ได้ออกมาเปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้มีคนไปร้องเรียนและข่มขู่แพทย์ที่รักษานายกิตติศักดิ์ ในเรื่องของการเขียนใบรับรองแพทย์  ว่าคุณหมอได้เขียนใบรับรองแพทย์ขึ้นมาเองว่านายกิตติศักดิ์เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่า 20 วัน และไม่เพียงเท่านี้ยังจะร้องเอาผิดตำรวจที่ทำคดีนี้อีกด้วย  ในเรื่องของการรักษา เนื่องจากการรักษาจมูกต้องใช้เวลาในการรักษาตัวนาน ถ้ามีการรักษากินกว่า 20 วันจะถือว่าเป็นอาการบาดเจ็บสาหัสตามข้อกฏหมายซึ่งทางคู่กรณีอาจจะได้รับโทษร้ายแรง  ที่คนคนนั้นเข้าไปร้องเรียนเช่นนี้เนื่องจากเห็นว่านายกิตติศักดิ์ไม่สาหัสแต่อย่างใด

แม่ของนายกิตติศักดิ์ยืนยันว่า ทางตนไม่มีปัญญาที่จะยัดเงินให้กับแพทย์หรือตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ เพราะตนและลูกเป็นฝ่ายที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่อยากจะคิดว่าฝ่ายไหนทำ แต่อยากถามว่าเค้าทำเช่นนั้นทำไม แม่นายกิตติศักดิ์กล่าว….