ในชีวิตประจำวันคนเรานั้นไม่สามารถใช้ชีวิตฟู่ฟ่าห้าดาวและใช้จ่ายเงินไปกับการท่องเที่ยวในทุกวันหยุดได้ตลอดเวลา
โชคดีเหลือเกินที่ประเทศไทยเรานั้นยังมีจังหวัดหนึ่งที่ทำให้เราเที่ยวได้อย่างสุขใจและสบายกระเป๋า นั่นก็คือ ภูเก็ตปักษ์ใต้บ้านเรานั่นเอง ส่วนจะมีที่ชิคๆ คูลๆ ที่ไหนบ้างนั้นมาดกันเลย
1.Trick Eye Museum หรือพิพิธภัณฑ์ภาพวาดสามมิติ
รู้หรือยัง! ภูเก็ตมีพิพิธภัณฑ์สามมิติแล้วนะ! ทริคอายมิวเซียม หรือพิพิธภัณฑ์สามมิติอยู่ในตัวเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ที่สี่แยกโรงแรมเพิร์ล เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดหากมาภูเก็ต เพียงแค่พกกล้องคู่ใจมาด้วย ก็สามารถเดินเที่ยวชมงานศิลปะที่แปลกตาเสมือนจริง ชวนให้จินตนาการตามได้ในทุกๆมุมที่จัดแสดง ค่าเข้าชมคนละ 500 บาทภายในเวลา 2 ชั่วโมง การเดินทางก็ไม่ได้ยากเลย สามารถมาด้วยรถแท็กซี่ หรือใครที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวก็สามารถนำมาจอดที่โรงแรมเพิร์ลได้ หากเวลาเหลือก็สามารถเดินเที่ยวชมตัวเมืองบริเวณโดยรอบได้ มีทั้งโรงเรียนรัฐและอินเตอร์ที่มีชื่อเสียง ตลอดจนตึกรามบ้านช่องที่สวยงามเรียงรายตลอด 2 ข้างทาง
2.Upside Down House หรือบ้านกลับหัว
หลายๆคนอาจจะเคยเห็นสถานที่แปลกๆ หรือสถาปัตยกรรมแหวกแนวของต่างประเทศมากมาแล้ว แต่อยากจะบอกว่าภูเก็ตบ้านเราก็ไม่แพ้ประเทศอื่นใดในโลกเช่นกัน Upside Down House หรือบ้านกลับหัวตั้งอยู่บริเวณถนนเส้นบายพาสกิโลเมตรที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นตัวบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์นั้นเหมือนจริงทุกประการ แต่ที่แปลกคือมีลักษณะกลับหัว ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนมาลองสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่กับมุมแปลกตาที่ชวนถ่ายรูป ขอเตือนว่าอย่าลืมเคลียร์ความจำกล้องของคุณให้เรียบร้อยก่อนมา เพราะคุณจะได้ภาพสวยๆกลับไปมากมายอย่างแน่นอน สำหรับค่าเข้าชมของผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 350 บาท ส่วนของเด็กอยู่ที่ 190 บาท
3.วัดฉลองหรือวัดไชยธาราราม
เดินทางไกลมาถึงปักษ์ใต้ก็ต้องมาเสริมศิริมงคลให้ตัวเองสักหน่อย ซึ่งสถานที่ที่เราจะแนะนำนั้นก็คือ วัดฉลอง หรือวัดไชยธาราราม พร้อมทั้งอยากเชิญชวนให้อ่านและศึกษาประวัติความเป็นมาของวัดนี้ เพราะมีความสำคัญต่อขนบธรรมเนียมประเพณีของจังหวััดภูเก็ตเป็นอย่างยิ่ง รับรองว่าการเดินทางครั้งนี้ของคุณจะเป็นมากกว่าแค่การกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และถึงแม้ว่าวัดหลายๆแห่งในปัจจุบันได้กลายเป็นพุทธพาณิชย์เพื่อเป็นช่องทางการสร้างรายได้ให้กับทางวัด แต่การเข้าชมหรือการสักการะที่วัดนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หากแต่จะเป็นการบริจาคตามกำลังศรัทธา ใครงบน้อย แต่จิตแรงกล้าขอเชิญชวนมาเที่ยววัด สบายใจแถมสบายกระเป๋า เหมาะกับสายมูเตลูขาประหยัดแน่นอน
4.นั่งชิลๆตามชายหาด
ขึ้นชื่อว่ามาจังหวัดภูเก็ตแต่หากเท้าของคุณไม่ได้มาสัมผัสเม็ดทรายก็เหมือนกับว่ายังมาไม่ถึง และหากคุณเป็นคนที่ชอบเจอผู้คนเยอะๆ หรือชอบความสนุกสนาน ที่นี่มีชายหาดมากมายให้คุณได้ปลดปล่อยตัวเองได้อย่างเต็มที่ แต่ใครที่ไม่ชอบความวุ่นวายนัก ภูเก็ตก็มีชายหาดที่เงียบสงบพร้อมอ้าแขนต้อนรับคุณอยู่เช่นกัน กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่คือกิจกรรมทางน้ำที่คุณสามารถเช่าเรือพายด้วยราคาเบาๆ หรือจะไปดำน้ำดูปลาสวยก็ได้ไม่ว่ากัน
ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคมไปจนถึงพฤษภาคมนั้น ท้องทะเลอันดามันจะเป็นสีฟ้าครามสดใส ถือได้ว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นที่เหมาะแก่การดำน้ำ และชมปะการังเป็นอย่างยิ่ง ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงพฤศจิกายนนั้นจะเป็นช่วงหน้าฝน อาจมีพายุบ้าง จึงไม่เหมาะแก่การออกทะเล หรือเล่นน้ำในช่วงนี้นัก ทำให้มีข้อจำกัดในการอนุญาตให้ช้เก้าอี้บริเวณชายหาด แต่ยังมีบางชายหาดที่ได้รับอนุญาตแล้วอย่างเช่น หาดลายัน หาดกมลา หาดสุรินทร์ยาวไปจนถึงหาดป่าตอง และขอบอกไว้ก่อนเลยว่าบริเวณบนหาดป่าตองนั้น เป็นหาดที่ห้ามสูบบุรี่อย่างเด็ดขาด ใครที่ฝ่าฝืนอาจจะโดนทั้งปรับและจำคุกถึง 1 ปีเลยทีเดียว
5.จุดชมวิวเขารัง
และที่สุดท้ายที่เราจะแนะนำนั่นก็คือจุดชมวิวเขารัง นอกจากเมืองเก่าภูเก็ตและสถานที่ชอปปิงแล้ว จุดชมวิวเขารังก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เมื่อใครได้มาภูเก็ตแล้วไม่ควรพลาด สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตัวเมืองภูเก็ต ที่เต็มไปด้วยทัศนียภาพของเมืองภูเก็ตอันงดงาม บนยอดเขารังนั้นมีร้านรวงต่างๆตั้งอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือคาเฟ่ โดยเฉพาะกาแฟเย็นของที่นี่ขึ้นชื่อที่สุด สามารถหาชิมได้ที่ร้านอาหารเขารังบีช (Khao Rang Breeze Restaurant) และร้านทุ่งคา กาแฟ (Tunk-Ka Cafe) อาหารและเครื่องดื่มรับรองว่าถูกทั้งราคาและปากอย่างแน่นอน จุดชมวิวเขารังที่อยู่บนเขากลางเมืองภูเก็ตแห่งนี้เป็นจุดชมวิวที่เห็นทัศนียภาพตัวเมืองภูเก็ตทั้งหมดแบบ 180 องศา ด้วยความสูงเพียง 150 เมตรเท่านั้น ข้อควรระวังคือเจ้าลิงทั้งหลายที่อาจขโมยอาหาร หรือแม้กระทั้งมือถือของผู้ที่ขึ้นมาเยี่ยมชม มาถึงตรงนี้ก็พูดได้อย่างเต็มปากว่า ขึ้นมาเขารังจ่ายแค่หลักร้อยแต่ได้วิวหลักล้าน!