เป็นอีกนักแสดงสาวที่มีความสามารถหลายด้านจริงๆ สำหรับ “ปู ไปรยา” ที่เธอนั้นมีชื่อเสียงโด่งดัง โกอินเตอร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมยังได้เซ็นสัญญากับ The Society Management เอเจนซี่ชื่อดังที่ดูแลงานให้เหล่านางแบบสุดฮอตอีกด้วย นอกจากจะสวยและเก่งแล้ว สาว “ปู” ยังชอบช่วยเหลือสังคม ผู้ยากไร้อีกด้วย แถมตอนนี้เรื่องของหัวใจก็หวานแหววสีชมพูไปหมด เรียกว่าเพอร์เฟคครบครันจริงๆ
ช่วงเวลาโปรโมชัน: 1 กันยายน 2018 – 31 ธันวาคม 2018
สำหรับประวัติของสาวสุดเซ็กซี่คนนี้ “ไปรยา สวนดอกไม้” หรือ “ปู” ที่หลายๆ คนรู้จักกัน จริงๆ แล้วเธอชื่อ “นาตยา ลุนด์เบิร์ก” สาวหน้าคมหุ่นเป๊ะปังลูกครึ่งไทย-สวีเดน เนื่องจากคุณพ่อและคุณแม่ของเธอหย่าร้างกัน และภายหลังคุณแม่เธอไปแต่งงานใหม่กับหนุ่มชาวอังกฤษ เขาก็รับเธอเป็นบุตรบุญธรรม เธอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนนานาชาตินิสท์ NIST International School และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Oxford Brookes ประเทศอังกฤษ สาขาปรัชญา ธุรกิจ และการเมือง เธอมีโอกาสมาโลดแล่นในเส้นทางสายบันเทิงจากการชักชวนของนักปั้นมือทอง “เอ ศุภชัย” นักปั้นที่ปั้นนักแสดงมากฝีมือประดับวงการมาแล้วอย่างมากมาย อาทิ เวียร์ ศุกลวัฒน์, ณเดชน์ คูกิมิยะ, มาริโอ้ เมาเร่อ, เจมส์ มาร์ ฯลฯ อีกทั้งชื่อ “ไปรยา” ก็เป็นชื่อในวงการที่ได้หนุ่มเอเป็นคนหามาจากพระอาจารย์ที่นับถือ และนามสกุล “สวนดอกไม้” ก็เป็นนามสกุลเดิมของแม่เธอ
ในด้านของความรัก เธอก็ถูกจับตาตั้งแต่ที่คบหากับนักร้องแร็พเปอร์ชื่อดัง “โจอี้บอย” ซึ่งถือว่าเป็นรักครั้งแรกของสาว “ปู ไปรยา” คบหากันมานานเกือบ 4 ปี แต่รักก็ล่มเพราะเธอออกมาบอกว่าทนความเจ้าชู้ของหนุ่มโจอี้ไม่ไหว ขณะนั้นหนุ่มโจอี้ถึงขนาดออกมาแต่งเพลง “ร้ายก็รัก” เพื่องอนง้อสาวปูเลยทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันช่วงเวลานั้นก็มีคนจับตามองความสัมพันธ์ของเธอและหนุ่ม “อ้วน รังสิต” รวมทั้งมีข่าวลือว่าเขาเข้ามาเป็นมือที่สามทำให้รักของสาวปูและหนุ่มโจอี้ไปไม่ถึงฝั่ง แต่หนุ่ม “อ้วน” ก็ออกมายืนยันหนักแน่นว่าเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น และหลังจากเลิกกับหนุ่มโจอี้ได้ 6 เดือน เธอก็ได้เปิดตัวคบหาดูใจกับไฮโซ “ณัฐ สารสาส” หนึ่งในเพื่อนสนิทของโจอี้ ซึ่งในครั้งนั้นหลายคนถึงกับจับตาว่าเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดรึเปล่า แต่สาว “ปู” ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่ใช่ เพราะพวกเขาเริ่มต้นคุยกันหลังจากเลิกอดีตคนรัก หลังจากนั้นสักพักก็มีข่าวลือว่าหนุ่มณัฐนั้นทำร้ายร่างกายของสาวปู พร้อมๆ กับที่มีไฮโซหนุ่ม “แพท ประกาศิต” อดีตคนรักของนางเอกสาว “เชอร์รี่ เข็มอัปสร” มาขายขนมจีบให้เธอ ช่วงนั้นเป็นกระแสแรงมากเพราะกลายเป็นข่าวใหญ่ว่าตกลงแล้วเธอจะเลือกใคร ถึงขนาดอดีตคนักอย่าง “โจอี้บอย” ออกมาพูดเหน็บแนมเธอว่าเป็นของเล่นไฮโซ และในครั้งนั้นเธอก็ตัดสินใจเลือกหนุ่ม “แพท ประกาศิต” แต่คบได้ไม่นานก็เลิกรากันไป ครั้งนั้นหนุ่ม “ณัฐ” ถึงกับออกมาให้สัมภาษณ์ว่าหากมีโอกาสได้คุยอีกก็คงจะไม่คุย เธอจึงถูกยกให้เป็นสาวสุดฮอต มีข่าวคราวความรักกุ๊กกิ๊กออกมาให้เห็นตลอด จนก่อนหน้านี้เธอก็ได้คบหากับ “โน้ต วิเศษ” ทายาทหมื่นล้านอดีตคนรักของซุปตาร์สาวรุ่นพี่อย่าง “อั้ม พัชราภา” แถมพ่วงด้วยว่าที่ตำแหน่งน้องสะใภ้ของเจ้าแม่แฟชั่นนิสต้า “ชมพู่ อารยา” ที่ลั่นระฆังวิวาห์กับหนุ่ม “น็อต วิศรุต” พี่ชายของหนุ่มโน้ตไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่แล้วผ่านไปไม่นานเธอก็ได้ออกมาเปิดใจว่าได้เลิกรากับหนุ่มโน้ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่มีปัญหามือที่สาม ยังคงคุยกัน ปรึกษากันเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนสถานะ และในปัจจุบันกับความรักครั้งล่าสุดกับแฟนหนุ่มตาน้ำข้าว แมทธิว บราก สาวปูออกปากว่าแฮปปี้สุดๆ ที่ศึกษาดูใจกันมาเกือบจะ 2 ปีแล้ว โดยงานนี้สาว ปู ไปรยา ได้ออกมาเผยให้ฟังว่า ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว เป็นความรักข้ามทวีปแต่สามารถจูงมือกันก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้ พร้อมยอมรับคุยเรื่องแต่งงานมาตลอด แต่ไม่อยากพูดเยอะ เพราะต้องรอฝ่ายชายมาขอก่อน
สำหรับผลงานละครนั้น ครั้งแรกเธอได้มาเทสต์หน้ากล้องกับทางบริษัทดาราวิดีโอ และมีผลงานละครเรื่องแรกในปี 2547 เรื่อง “รักได้ไหม ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน” กับบทบาท “ไข่แก้ว” หลังจากนั้นในก็ได้ขยับขึ้นแท่นเป็นนางเอกในละครแฟนตาซีเรื่อง “สาวน้อยในตะเกียงแก้ว ภาค 2” ในบทบาทฮันนี่ แม่มดสาวแสนสวย เรื่องนี้นับเป็นละครที่สร้างชื่อเสียงและแจ้งเกิดให้เธอเป็นนักแสดงอย่างเต็มตัว และตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน เธอก็ได้เล่นละคร มีผลงานถึง 17 เรื่องด้วยกัน นอกจากงานละครแล้วเธอยังเคยได้แสดงภาพยนตร์ถึงสองเรื่องด้วยกัน คือ มากับพระ (2549) และอะดรีนาลีน คนเดือดสาด (2552) แต่นอกจากงานละครและภาพยนตร์แล้ว เธอก็เป็นสาวสุดเซ็กซี่ที่มีงานพรีเซนเตอร์และโฆษณาพุ่งชนอย่างมากมาย และเธอยังได้รับรางวัลผู้หญิงเซ็กซี่แห่งปีถึง 3 ปีซ้อนจากนิตยสาร FHM ด้วยหุ่นอันสุดแสนจะเพอร์เฟ็คท์ โดยเธอนั้นจะใส่ใจกับการออกกำลังกายมากเป็นพิเศษ งดปาร์ตี้ เธอจะออกกำลังกายอาทิตย์ละ 4 วัน เล่นโยคะร้อน 2 วันและวิ่งวันละ 20 นาที เธอจะตื่นมาตอนเช้าช่วง 6-7 โมงและเริ่มอกกำลังกาย เพราะร่างกายจะเผาผลาญดี ส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และนอกจากในเรื่องของการออกกำลังกายแล้ว เธอยังให้ความสำคัญกับการกินด้วย เธอจะเน้นกินอาหารชีวจิต ผัก ผลไม้ หรือข้าวกล้อง สำหรับผักผลไม้ เธอก็จะเน้นรับประทานให้ครบ 5 สี ทั้งเขียว แดง เหลือง ส้ม ม่วง แทนการกินวิตามินหรืออาหารเสริม ซึ่งการมีระเบียบวินัยในการกิน และการออกกำลังกายก็ทำให้เธอสุขภาพแข็งแรง หุ่นเฟิร์ม เป๊ะปังสุดๆ
