วันนี้เปิดเน็ตฟลิกซ์มาเจอซีรี่ย์ใหม่ I Am Not Okay With This ที่อยู่ในหมวดป็อป ก็เลยคลิกเข้าไปดูตอนแรกก็รู้สึกงง ๆ กับจุดเริ่มต้นนะ มันดูเหมือนซีรี่ย์หลอน ๆ อะไรประมาณนั้น แบบเลือดเต็มตัวเต็มหน้าอะไรจะเละเทะสะขนาดนั้นกัน แต่พอลอง ๆ ดูไปสักครึ่งตอนเรื่องมันก็เปลี่ยนไป และยิ่งดูไปเรื่อย ๆ มันก็ยิ่งเปลี่ยนไปอีกเรื่อย ๆ เลยกลายเป็นว่าจับทางไม่ถูกว่าละครจะมาแนวไหน
ถามว่าแล้วจะดูดีหรือไม่ดูดีล่ะ เอาเป็นว่าสำหรับเราคนที่ชอบหนังแนววัยรุ่นอเมริกันในช่วงวัยไฮสคูลก็สนุกดีนะ และพอยิ่งดูไปมันเรื่อย ๆ ก็มีเรื่องให้น่าติดตามกับความสามารถพิเศษของตัวละครหลักอย่าง Sydney ซึ่งดูตอนแรก ๆ ก็ไม่คิดว่าเธอจะมีพลังพิเศษอะไร เอาเป็นว่าไม่อยากสปอยไปมากกว่านี่นะ เอาเป็นว่าน่าดูนะสำหรับเรื่อง I’m not okay with this
สำหรับเรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเวลาในการนั่งดูยาว ๆ แบบไม่มีมุขให้ขำนะ เพราะเรื่องนี้มีทั้งความดราม่าในครอบครัวของ Syd รวมไปถึงเรื่องราวตลก ๆ ของวัยรุ่น และในซีซั่นนี้มีเพียงแค่ 7 ตอนเท่านั้น และในบางเอพพิโซดนั้นก็มีเพียงแค่ 20 นาทีด้วย ดังนั้นในเวลาที่คุณจะต้องดูสามตอนของ Game of Thrones คุณสามารถดูจบซีซั่นแรกของ I’m not okay with this นี้ได้อย่างแน่นอน
เด็กผู้หญิงที่ชื่อ Syd รับบทโดย Sophia Lilis ซึ่งคุณอาจรู้จักจากการเล่น Amy Adams ในเรื่อง Sharp Objects หรือจากหนังผีที่เธอเล่นได้ดีมากเลยทีเดียวในบท Jessica Chastain เรื่อง It สำหรับซีรี่ย์ใหม่ในเน็ตฟลิกซ์นี้เธอแสดงเป็นมากกว่ารุ่นวัยปกติทั่วไปในละครของฮอลลีวู้ด Lilis สร้างปรากฎการณ์ใหม่ในบทที่แสดงเป็น ซิด ในซีรีย์นี้อย่างแท้จริงและมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เรื่องนี้ที่มีทั้งหมดเจ็ดตอนนั้นน่าสนใจมาก แทงบอลออนไลน์
ซิดกำลังเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมายในชีวิตของเธอ เรื่องเพศของเธอเมื่อเธอรู้ตัวว่าเธอตกหลุมรักเพื่อนสาว Dina เพื่อนสนิทของเธอ แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือ การฆ่าตัวตายของพ่อของเธอเมื่อไม่นานมานี้ พลังจิตของเธอเริ่มปรากฏออกมาเมื่อเธอโกรธหรืออับอายหรือเครียดซึ่งในฐานะหญิงสาววัยรุ่นที่จัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ไม่ค่อยดี
อย่างไรก็ตามเรื่องนี่ไม่ใช่ซีรีส์สยองขวัญ บรรยากาศมันอาจจะดูคล้ายกันมากกับ The End of the F *** king World ของเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นเรื่องตลกที่ดาร์คที่สุด และเหตุผลที่คล้ายคลึงกับซีรี่ส์นั้นก็เพราะผู้สร้าง I’m not okay with this ด้วยนี่คือ Jonathan Entwistle ผู้เป็นผู้อำนวยการสร้างและกำกับ The End of the F *** king World ดังนั้นไม่แปลกในเลยที่สองเรื่องนี้จะคล้าย ๆ กัน
การแสดงของนักแสดงต้องบอกว่าพวกเขาเล่นได้ยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวเอกหรือตัวเสริมก็ทำให้เราดูแล้วอินไปได้ดีเลยล่ะ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นซีรี่ย์ที่ออกแนวเวิอร์เกินความเป็นจริง แต่ดูแล้วก็สนุกไปได้กับบรรยากาศที่ละครส่งมาให้ สามารถพูดได้ว่าลิลิสนั้นเล่นได้ดีมากในบทของซิดเธอมีเสน่ห์และส่งอารมณ์ให้คนดูมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเธอได้ดีเลย